พอดีไปอ่านเจอในเวปสวนขลังก็เลยขอคัดลอกมาให้อ่านครับ “ข้อความนี้คัดลอกมาจากหนังสือ “ลานโพธิ์” ฉ.1018 ครับ ขอขอบคุณและขออนุญาตินำมาเผยแพร่ ครับ
เรียน คุณพันสาย ที่นับถือ
คุณจะเป็นใครก็ตามที แต่ผมอ่านคอลัมน์จับกระแสของคุณมาโดยตลอด ผมบอกตรงๆ ว่า คุณเขียนได้ตรงไปตรงมาและให้สาระประโยชน์
แก่ผู้ที่อยู่ในและนอกวงการพระ ได้เป็นอย่างดี อย่างน้อยก็ช่วยให้ตาสว่างไม่ต้องถูกปั้นหัวเป็นจิ้งหรีด ให้แห่กันไปเช่า วัตถุมงคลที่ผลิต(สร้าง)ออกมากันอย่างเมามัน
ทั้งทองคำ เงิน นวโลหะ ราคาแพงกว่าวัสดุที่ใช้จัดสร้างหลายเท่าแล้วผ่านกรรมวิธีการโฆษณาแบบ สนั่นโลกา ทำให้แมงเม่าพากันบินเข้ากองไฟตายเกลื่อน
.ผมเองเป็นแมงเม่าอีกตัวหนึ่งที่ เก็บ วัตถุมงคลของหลวงพ่อสำนักหนึ่ง ผมไม่ต้องการเอ่ยนามท่าน เพราะท่านเป็นพระบริสุทธิ์ เงินผ่านเพียงสายตาท่านเท่านั้น
ท่านไม่เคยยินดีหรืออยากได้ใคร่ดี ผู้สร้างต่างหากที่ได้ดิบได้ดีร่ำรวยเพราะหลวงพ่อไปตามๆกัน
จากการเช่า พระกริ่งหนึ่งชุด ทองคำ เงิน นวโลหะ เอาไว้เมื่อหลายปีก่อน แมงเม่าตัวนี้หวงแหนและเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี
ปีนี้ผมตกงานเพราะแผนกที่ผมเป็นหัวหน้าอยู่ถูกปิดด้วยสภาวะเศรษฐกิจได้เงิน ทดแทนมาแสนกว่าบาท
เพียงไม่กี่เดือนเงิน ก็หร่อยหรอหางานใหม่ก็ไม่ได้ ลูกชายขอเงินก้อนเพื่อจะจบการศีกษาและรับปริญญา
เงินก้อนสุดท้ายที่มีผมจ่ายออกไปแทบหมด เหลืออยู่เพียง พระกริ่งทองคำ เงิน นวโลหะ ที่มีอยู่ ผมรีบนำไปศุนย์พระเครื่องที่รับเช่าพระสายตรงของหลวงพ่อ
ผมเอาพระกริ่งไปยื่นให้ สิ่งที่ผมได้รับคือ “เขาไม่นิยมครับ ผมไม่รับเช่าครับ มีรุ่นนี้ไหม ไม่มีผมก็เสียใจด้วยน่ะครับ รุ่นนี้มีไหมกริ่งทองคำรุ่นที่ผมบอกแสนนึงผมก็เช่า “
“ก็พระแท้นี่นา ใบเสร็จผมก็ยังมีอยู่ งั้นเอาเท่าราคาที่จองมาก็ได้ ผมต้องการเงิน”
“พี่นี่พูดไม่เข้าใจ ผมบอกว่าเขาไม่นิยม เขานิยมรุ่นนี้ ราคาจองก็เช่าไม้ได้ เงินจม ไม่มีใครมาเช่าต่อ ไม่เอาครับ ขอโทษผมจะคุยกับลูกค้า”
ถูกไล่กลายๆ ผมเดินออกจากศุนย์แรกไปอีกสองสามแห่ง คำตอบก็เหมือนกันคือ ไม่รับเช่า ผมนึกในใจว่า
“เวลาเช่ามันโฆษณาจนระเบิดเถิดเทิงจนถึงขายใบจอง มันเป็นการจัดฉากทั้งหมด เป็นการก่อกองไฟให้แมงเม่าแบบผมบินเข้าไปเล่นไฟเย็นที่เผาปีกแมงเม่า
ผมเก็บความน้อยเนื้อตำใจเอาไว้ที่พึ่งสุดท้ายคือ "ร้านขายทองที่ถนนเยาวราช”
………….ผมเผ่นไปทันที เข้าร้านแรกผมถามว่า “ผมมีพระกริ่งทองคำมาขาย เอาราคาทองคำที่ซื้อขายในปัจจุบันก็พอแล้ว น้ำหนักสิบสลึง”
เถ้าแก่หยีตาไม่มองด้วยซ้ำ รีบพูดว่า “ที่นี่รับแต่ทองรูปพรรณกับทองแท่งที่มีตราร้านเราเท่านั้น อย่างอื่นไม่รับซื้อ”
ผมเดินทั่วทุกร้าน คำตอบก็เป็นแบบเดียวกันคือ ไม่รับซื้อ ผมเดินแต่เช้ามาจนถึงบ่าย หน้ามืดลมออกหู
จนมาถึงศูนย์พระเครื่องที่อยู่นอกเมืองแถบที่ผมพักอยู่ ผมถือเป็นที่พึ่งสุดท้าย ผมเข้าไปยื่นพระกริ่งทองคำ บอกขายในราคาทอง
เจ้าของร้านชั่งน้ำหนักแล้วฝนดู จึงพูดกับผม ด้วยคำพูดที่ผมถึงกับเข่าอ่อนทรุดลงนั่งกับเก้าอี้ "งัดหลอดยาดมมาดม"
“คุณพี่จำไว้เลยน่ะ พระกริ่งทองคำ ผู้สร้างใช้ทองคำ 85% เทครับถ้าให้ผมซื้อราคาทอง ผมก็ให้ได้กรัมละ 600 บาท พระกริ่งองค์นี้ได้เงินเพียง 16,000 บาทเท่านั้น หากจะขาย ผมก็รับซื้อ”
ผมรับพระกริ่งคืน เพราะราคาทองที่ทางร้านให้ผม น้อยกว่าราคาที่ผมสั่งจองจนรับไม่ได้
ผมนำพระกริ่งกลับบ้านคำว่า “ทอง 85%” ยังก้องในหูผมจนทุกวันนี้ ผมนำพระกริ่งไปจำนำกับญาติ ไปนั่งดูลูกผมรับปริญญา น้ำตาผมไหลซึม
ซึมออกทั้งด้านนอกและด้านใน ด้านนอกคือน้ำตาแห่งความปิติผมส่งเสียลูกจนได้ปริญญา ที่ซึมออกด้านในคือ น้ำตาแห่งความเสียใจ
ที่ผมเป็นแมงเม่าที่หลงไปเช่าวัตถุมงคลที่พวกโปรโมเตอร์ สร้าง โดยไม่รู้มาก่อนว่าพระกริ่งที่ผมเช่าในราคาทอง 100% ณ วันนั้น
แต่กลับใช้ทอง 85% เท ผู้รู้บางคนบอกผมว่า บางเจ้าใช้ทอง 80% มาเทด้วยซ้ำ กะซวกส่วนต่างค่าทองไปกินฟรีตั้งแต่ผู้คนเริ่มจอง
หากไปถาม คำตอบก็คือ ทองคำ 100% เทขึ้นรูปไม่ได้ ทอง 90%เทไม่ติด ต้อง 85% นี่แหละถึงใช้ได้
ถ้าไปต่อว่าผู้สร้าง จะถูกตอกหน้าหงายกลับมาว่า จะมาต่อว่ากันได้อย่างไรเงินที่จ่ายมาถือว่า "ทำบุญมิใช่หรือ"
ทุกวันนี้ผมยังแขวนพระกริ่งทองคำ ของหลวงพ่อองค์นั้นอยู่ เพราะอธิษฐานให้ได้งานทำผมก็ได้งานใหม่ มีเงินไปถ่ายพระกริ่งทองคำ คืนจากญาติ
ที่ผมเขียนจดหมายมา เพื่อที่จะได้เป็นสิ่งสอนใจแก่ผู้ที่มีพระกริ่งทองคำ อยู่ในครอบครองว่า ให้สำรวจดูในตลาดว่าเป็นรุ่นนิยมหรือไม่
เพราะนิยมหรือไม่นิยม พวกศูนย์หรือสายตรงของสำนักต่างๆ "จะรวมหัวกัน" กำหนดกันเองว่ารู่นนี้นิยม ร่นนี้ไม่นิยม ถ้ามีอยู่ในมือมากก็นิยม เราจะยังออกตัวได้ในราคาดี
ถ้าไม่มีหรือหายาก "ก็ทำทีตั้งป้อมรับเช่า" ก็รู้ทั้งรู้ว่าใครมีก็ไม่เอามาให้เช่าหลอก และอย่าได้เอาพระกริ่งไปขาย ในราคาเนื้อทองที่ร้านค้าทองคำที่เยาวราชเด็ดขาด เสียเวลาเปล่าไม่มีร้านไหนรับซื้อหรอกครับ
ได้โปรดรับรู้ว่าวัตถุมงคลทองคำ เวลาจองคิดราคาทอง 100 % ในตลาดเวลานั้น เอากำไรเหนาะๆ เพราะเวลาเทใช้ทอง 85% หรือบางเจ้าใช้ทอง 80% เทด้วยซ้ำ ก่อนจะจองคิดดูให้ดีก่อน
ก่อนที่จะตกที่นั่งลำบากอย่างผม ยังดีที่ว่าเก็บมา10กว่าปี ราคาทองขึ้น หากทองไม่ขึ้นค่าเนื้อทองคงเหลือไม่ถึง 10,000บาท ก็เป็นได้
หวังว่าจดหมายผมคงให้สาระแก่ท่านผู้อ่านไม่มากก็น้อย ผมอนุญาติให้คุณตัดข้อความที่ไม่เหมาะสมออกได้ตามแต่คุณจะเห็นสมควร
ขอแสดงความนับถือ เดียวดาย(นามสมมุติ)
***พระกริ่งทองคำองค์นี้เป็นเพียงภาพประกอบเท่านั้น ไม่ได้เป็นพระกริ่งองค์ที่อยู่ในเรื่อง***
หน้าที่เข้าชม | 1,366,826 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 1,084,686 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 5 ก.ย. 2568 |